Monday, July 28, 2014

เมี่ยงปลาเผา ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ มาแรงรวยเร็ว

จริงแล้วคุณก็คงเคยรู้จัก หรือได้ลองทานกันมาบ้างแล้ว สำหรับอาหารที่ชื่อว่า "เมี่ยงปลาเผา" เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ย่านไหน หรือตลาดไหน ก็จะมีให้เห็นกันเกือบทุกที่ แล้วไอ้เมี่ยงปลาเผามันดียังไง??

วันนี้เราได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณ ชวฤทธิ์ ยอดมงคล เจ้าของร้าน "เมี่ยงปลาจ๋า" หรือร้าน "กล้วยน้ำไทยเมี่ยงปลาเผา" ซึ่งคุณชวฤทธิ์ หรือคุณแจ๊ค ได้ให้ข้อมูลกับเราเป็นเว็บแรกเลย



ทำไมถึงเป็น "เมี่ยงปลาเผา"
"จริงๆแล้ว "เมี่ยง" จะเป็นนิยามของวิธีการรับประทานมากกว่าครับ ประมาณว่า เอาผักใบมาห่อกับอาหารหลักแล้วทานเป็นคำๆ ในที่นี้เราก็จะใช้เนื้อปลาเผา เอามาห่อกับผักสด เส้นหมี่หรือเครื่องเคียงต่างๆ แล้วราดน้ำจิ้มลงไป ว่าไปแล้วมันก็ออกประมาณเหมือนแป๊ะซะนะ 555"

แล้วมันเป็นธุรกิจเพื่อสุขภาพยังไง
"คำตอบมันอยู่ในตัวสินค้าอยู่แล้วครับ อย่างแรกเลยก็คือปลา เนื้อปลาเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี เป็นโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ และมีไขมันที่เป็นประโยชน์ ย่อยง่าย ทานแล้วไม่เกิดไขมันสะสม นอกจากปลาแล้วก็ยังมีผักสด มีวิตามินสูง ผักบางอย่างก็มีคุณสมบัติเป็นสมุนไพรด้วย เช่นโหระพาที่ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมารวมกัน มันก็จะส่งผลดีให้กับคนทานครับ อิ่ม อร่อย ไขมันน้อย โปรตีน วิตามินสูง"


ใช้ปลาอะไรในการทำ เมี่ยงปลาเผา
"ใช้ได้ทุกชนิดครับ ตั้งแต่ปลาทูยันปลาวาฬ(หัวเราะ) แต่ที่ร้านเราจะใช้เป็นปลาทับทิมครับ เพราะราคาไม่สูงมาก ลูกค้ามีกำลังซื้อ แล้วทางร้านก็พอได้กำไรอยู่ ปลาทับทิมที่เราใช้นั้น เป็นปลาทับทิมที่เลียงในฟาร์มของ CP ซึ่งเป็นฟาร์มที่มีมาตรฐาน สะอาด ถูกหลักอนามัย เราจะสั่งให้ทำปลาตอนบ่าย แล้วนำมาขายในตอนเย็น เพื่อรักษาความสดของเนื้อปลาให้ได้มากที่สุด ตรงพุงเราก็ขัดจนสะอาด ไม่ให้มีคราบโคล หรือกลิ่นโคลน จุดเด่นของร้านเราคือการใช้ปลาสดครับ เนื้อปลาจึงหวาน อร่อย"

พูดถึงจุดเด่น มีอะไรอีกไหมที่คิดว่า ไม่เหมือนร้านเมี่ยงปลาเผาอื่นๆทั่วไป
"นอกจากจุดเด่นเรื่องความสดของเนื้อปลา เราก็มีจุดเด่นที่แตกต่างจากร้านเมี่ยงปลาเผาร้านอื่น คือร้านเราใช้การย่างแบบโบราณ มันก็คือการย่างบนตระแกรงแบบพื้นๆนี่แหละครับ ไม่ได้ทำเป็นแบบเตาหมุน ข้อดีของเตาตะแกรง คือเนื้อปลาจะไม่แห้ง เพราะมันของปลา น้ำในเนื้อปลาจะไม่ไหลออกมา เนื้อปลาที่ย่างบนตะแกรงแบบธรรมดาจะฉ่ำและหวานมากกว่าย่างแบบเตาหมุน"

เดี๋ยวสัปดาห์หน้าเรามาอ่านกันต่อนะครับ
ขอบคุณเว็บ www.miangplaja.com มากครับ

No comments:

Post a Comment